ธรรมชาติรังสรรค์ - ธรรมชาติรังสรรค์ นิยาย ธรรมชาติรังสรรค์ : Dek-D.com - Writer

    ธรรมชาติรังสรรค์

    ผู้เข้าชมรวม

    138

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    138

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  29 ธ.ค. 52 / 15:36 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
                                                     ธรรมชาติรังสรรค์ชีวิต             กรรมลิขิตรังสรรค์ปัญญา
                                                     การกระทำรังสรรค์คุณค่า       ด้วยเจตนาร่วมรักษาธรรมชาติงดงาม
       
                      หากย้อนอดีตไปสองพันห้าร้อยกว่าปี หรือสมัยพุทธกาลพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกับพระอานนท์ถึงสิ่งประเสริฐสุดคือ ๔ ประการ คือ ประการแรกการได้เกิดมาเป็นมนุษย์  ประการที่สองการได้เกิดมาพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นศาสนาแห่งปัญญา  ประการที่สามการมีอายุที่ยืนยาว และประการสุดท้ายการได้ศึกษาและการปฏิบัติธรรม
                      การค้นพบของพระพุทธเจ้าเป็นการค้นพบครั้งสำคัญ ที่ช่วยให้มนุษย์ทั้งหลายที่เพียบพร้อมด้วยความเพียรอันบริสุทธิ์ และความดีได้หลุดพ้นจากความทุกข์  ซึ่งการค้นพบนี้เป็นการค้นพบโดยธรรมชาติด้วยกระบวนการทางธรรมะหรือค้นพบนี้เป็นการค้นพบโดยกระบวนการธรรมชาติซึ่งเป็นศาสนาแห่งปัญญา การได้ปฏิบัติธรรมชาติ หมายความว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีจุดยืนมาจากธรรมชาติทั้งสิ้นและอย่างสิ้นเชิง
                      จากที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งปัญญา  เป็นศาสนาแห่งการมีเหตุมีผล มีตรรกะทางด้านความคิด  และที่สำคัญเป็นสิ่งประเสริฐอันล้ำค่าจากธรรมชาติที่จะช่วยให้ทุกชีวิตพ้นทุกข์
                      ความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันเป็นผลอันเนื่องมากจากการลืมตน การขาดความยั้งคิด ขาดจิตสำนึก และการไร้ซึ่งสติของคน  ในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับธรรมชาติ คือลืมตนว่ามาจากธรรมชาติ  อย่างที่คุ้นเคยที่สุดคือเลือด เนื้อ ลมหายใจที่เราใช้ดำรงยู่ก็เป็นผลมาจากธรรมชาติ เพราะไม่มีอะไรที่เป็นของเราอย่างแท้จริงนอกความกรรม(เหตุที่ก่อให้เกิดผล)
                      “โลกร้อน เรื่องจริงที่กลายเป็นกระแสนิยม” เป็นเรื่องที่น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ที่คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันหันมาใส่ใจปัญหาสภาวะโลกร้อน แต่กลับกลายเป็นกระแสนิยม เป็นแฟร์ชัน อย่างเช่น การใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก (ใกล้เห็นโลงศพ แล้วจึงเฮโลบีบน้ำตา) แต่ถ้าถามกลับว่าจะมีซักที่คนที่กระทำตนให้มีจิตสำนึกในการเป็นผู้ให้แก่ธรรมชาติ ในการแก้ปัญหาสภาวะโลกร้อน ตลอดจนการรักษาปกป้องธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมมาจากจิตใจโดยแท้จริง   ให้เหมือนครั้งที่เราเป็นผู้รับจากธรรมชาติมาโดยตลอด ตั้งแต่การปฏิสนธิครั้งแรก ซ้ำยังเป็นการรับที่ไร้สติ จนทำให้เป็นเหตุที่ก่อให้เกิดผลปัจจุบันอย่างเห็นได้ชัด
                      “มาตรฐานประเทศพัฒนาแล้วอยู่ไหน” ธรรมชาติหรือวัตถุ ในการที่จะบอกประเทศนี้ ประเทศนั้นเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว หรือนี่คือประเทศที่กำลังพัฒนา ลองย้อนถามกลับว่าลักษณะประเทศที่พัฒนาแล้วมีลักษณะอย่างไร แล้วทำไมถึงได้ชื่อว่าเป็นผู้ทำลายสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งอาจเป็นคำถามที่ตอบได้ยาก แต่ถ้าเราทุกคนรู้อยู่แก่ใจ ว่าสิ่งใดควรหรือสิ่งใดไม่ควรเราก็คงไม่ต้องการให้ใครมาให้ชื่อว่าเราเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ประเทศที่กำลังพัฒนา หรือประเทศที่ด้อยพัฒนา
                      หยุดลืมตนว่าเรา(นามสมมติ) มาจากธรรมชาติ ดำรงได้เพราะธรรมชาติ ฉะนั้นถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนควรเป็นผู้ให้แก่ธรรมชาติ ซึ่งเป็นการให้โดยไม่ควรหวังผลตอบแทน คือการให้ด้วยใจบริสุทธิ์  อย่างที่กล่าวไว้เมื่อการให้ของเราเป็นเหตุที่บริสุทธิ์  ธรรมชาติก็ต้องมีกลไกลในการปรับสมดุลเพื่อให้สิ่งมีชีวิตทั้งหลายสามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติที่มีแต่ความชุ่มชื่นดังเดิม
                      เริ่มจากตนเองวันนี้ อย่างง่ายๆ โดยอยู่บนหลักความพอเพียง ในการแก้ปัญหาสภาวะแวดล้อมในปัจจุบัน นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีเป็นอย่างยิ่ง อย่างเช่น การใช้กระดาษสองหน้าตามสมการ (ซื้อ)๑๐๐ = (ใช้) ๒๐๐ คือ ซื้อกระดาษมาหนึ่งร้อยบาทแต่สามารถใช้ได้ถึง ๒๐๐ บาท ช่วยกันปลูกต้นไม้ในบริเวณบ้านตามความเหมาะสม ใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก การประหยัดไฟ และอื่นๆ อีกมาก แต่การกระทำทุกอย่างควรต้องกระทำอย่างมีสติและด้วยใจบริสุทธิ์
                      จะเห็นได้ว่าชีวิตทุกชีวิตล้วนเกี่ยวข้องกับธรรมชาติอย่างไม่สามารถแยกออกได้ ดังนั้นเราทุกคนถึงเวลาแล้วที่จะเป็นผู้ให้กับธรรมชาติบ้าง คือการให้ด้วยใจบริสุทธิ์ และมีสติ ก็จะทำให้เราสามารถธำรงอยู่กับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×